ReadyPlanet.com
dot
bulletLog-in >>>
dot
รายการส่งเสริมการขาย New !!
dot
bulletไบโอ เอ็มพลัส ( Bio-Mplus )
dot
งานนำเสนอ ( Present )
dot
bulletพันธกิจ ( Mission )
bulletภาพกระบวนการผลิต ( Manufacturing Process )
bulletภาพโรงงานผลิต ( Factory )
bulletส่งเสริมการตลาด ( Marketing Promotion )
bulletถาม-ตอบ ( ask-answer)
bulletติดต่อเรา ( Contact us )
dot
สารชีวภาพ กับ พืชผลทางการเกษตร
dot
bulletทุกคำถามเรามีคำตอบ
bulletไม้ยางพารา
bulletส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง มะนาว มะกรูด
bulletกล้วยไม้ แวนด้า หวาย กล้วยไม้ดิน ฯลฯ
bulletไม้ผล ลำไย ลิ้นจี่ เงาะ ทุเรียน ฯลฯ
bulletไม้ดอก เบญจมาศ ฯลฯ
bulletพริกชี้ฟ้า พริกหวาน มะเขือเทศ ฯลฯ
bulletพืชผัก ผักชี กวางตุ้ง ผักบุ้ง ฯลฯ
bulletขิง ข่า ขมิ้น เผือก มันฝรั่ง
bulletพืชตระกูลข้าว หอมมะลิ ข้าวขาวต่างๆ
dot
เว็ปไซต์ที่เกี่ยวข้อง
dot
bulletwww.sugarzone.in.th
bulletwww.theice.com
bulletwww.rakayang.net
bulletwww.afet.or.th
bulletwww.nettathai.org
bulletสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย
bulletสมาคมค้าทองคำ
bulletราคาน้ำมันประจำวัน
dot
เว็ปไซด์การเกษตร
dot
bulletห้องสมุดความรู้ทางการเกษตร
bulletสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
bulletกรมวิชาการเกษตร
bulletกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
dot
เกษตรอินทรีย์
dot
bulletทำไมต้องเกษตรอินทรีย์
bulletเกษตรกรอินทรีย์กับปุ๋ยมดขยัน
dot
ความรู้เรื่องยางพารา
dot
bulletการทำยางแผ่นรมควัน
bulletขั้นตอนการผลิตยางแผ่น
bulletเทคนิคการผลิตยางคุณภาพดี
bulletเทคโนโลยีการผลิตยาง




เทคโนโลยีการผลิตยาง

 

เทคโนโลยีการผลิตยาง
การดูแลรักษาสวนยาง
   
1. การกำจัดวัชพืช
      1. ไถและพรวนดินอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนปลูก
      2. ใช้แรงงาน ขุด ถาก ดาย หรือตัดวัชพืชที่ขึ้นในแถวยาง และควรทำก่อนวัชพืชออกดอก
      3. ใช้วัสดุคลุมดิน โดยนำวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ เช่น เปลือกถั่ว ฟางข้าว ซังข้าวโพด หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นต้น คลุมโคน ต้นยางเฉพาะต้น หรือตลอดแถว เว้นระยะพอควรไม่ชิดโคนต้นยาง
      4. ปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว ได้แก่ คาโลโปโกเนียม เซนโตรซิมา เพอราเรีย และซีรูเลียม ห่างจากแถวยางประมาณ 2 เมตร
      5. พ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชตามคำแนะนำ เช่น พาราควอต ไกลโฟเสต

2. การปลูกพืชคลุม
                   การปลูกพืชคลุมดินระหว่างแถวยางเป็นวิธีหนึ่งที่ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืช และลดการชะล้างและพังทลายของ ดิน เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ตลอดจนสามารถปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มธาตุอาหารในดินด้วย
 ชนิดของพืชคลุมที่ปลูกในสวนยาง
                   พืชคลุมดินตระกูลถั่วที่ใช้ปลูกในสวนยางที่สำคัญมี 4 ชนิด คือ Calopogoniummucunoides   Puerariaphaseoloides   Centrosemapubescens  Calopopaniumcaeruleaumเนื่องจากลักษณะและการเจริญเติบโตของพืชคลุมดิน แต่ละชนิดแตกต่างกัน การปลูกพืชคลุมดิน ให้คลุมตลอดอายุต้นยางอ่อน ควรปลูกหลายชนิดรวมกัน และเมล็ดพันธุ์พืชคลุม ควรมีความงอกร้อยละ 80 ขึ้นไป
การเตรียมเมล็ดพันธุ์พืชคลุม
                   เมล็ดพืชคลุมมีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็งทำให้น้ำซึมผ่านเข้าไปในเมล็ดยาก เมื่อนำไปปลูกเมล็ดจะงอกน้อย จึงควรกระตุ้น ให้เมล็ดงอกดีขึ้นโดยปฏิบัติดังนี้
1.      แช่ในน้ำอุ่น ใช้ปฏิบัติกับเมล็ดพืชคลุมคาโลโปโกเนียม เซ็นโตรซีมา และเพอราเรียนำไปแช่ในน้ำอุ่น (น้ำเดือด : น้ำเย็น อัตรา 2 : 1) นาน 2 ชั่วโมง นำเมล็ดไปผึ่งให้แห้งหมาด ๆ แล้วนำไปคลุกกับหินฟอสเฟต (25% TotalP2O5) เพื่อนำไปปลูกต่อไป ควรเตรียมเมล็ดพืชคลุมเพื่อปลูกให้หมดในแต่ละครั้ง การเก็บไว้นานเกินไป จะทำให้ความงอก เสื่อมลง
2.      แช่ในน้ำกรด ใช้ปฏิบัติกับเมล็ดซีรูเลียม โดยแช่ในกรดกำมะถันเข้มข้นนาน 1 นาที นำไปล้างน้ำแล้วผึ่งให้แห้ง
 ช่วงเวลาการปลูกพืชคลุม
                   ควรปลูกพร้อมกับปลูกยางในช่วงต้นฤดูฝน ในสภาพดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์หรือในเขตแห้งแล้งไม่ควรปลูก พืชคลุมทิ้งไว้ข้ามฤดูกาลก่อนการปลูกยาง เพราะพืชคลุมอาจทำความเสียหายให้กับต้นยาง โดยแย่งความชื้นในดินในช่วงฤดูแล้ง
การปฏิบัติดูแลรักษาพืชคลุม
                   ควรกำจัดวัชพืชก่อนปลูก และใส่ปุ๋ยบำรุงพืชคลุม ในเขตแห้งแล้งหรือสภาพดินทราย ควรใส่ปุ๋ย เพื่อเร่งให้พืชคลุม เจริญเติบโตในระยะแรก หลังจากที่ปลูก 2 เดือน โดยโรยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือปุ๋ยยางอ่อนอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ ข้างพืชคลุม หลังจากนั้นโรยปุ๋ยหินฟอสเฟตอัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านในบริเวณพืชคลุมทุกปีในช่วงฤดูฝน
 
 3. การใช้ปุ๋ยในสวนยาง
การใส่ปุ๋ยยางพาราก่อนเปิดกรีด
                   ปุ๋ยยางพาราก่อนเปิดกรีด คือ ปุ๋ยที่ใส่ตั้งแต่เริ่มปลูกจนต้นยางได้ขนาดกรีด ปุ๋ยที่ใช้ ได้แก่ ปุ๋ยรองก้นหลุม และ ปุ๋ยบำรุง
                   ปุ๋ยรองก้นหลุม เป็นปุ๋ยที่เร่งให้รากงอกและแผ่ขยายเร็ว ปุ๋ยรองก้นหลุมที่แนะนำใช้ในสวนยางได้แก่ ปุ๋ยหินฟอสเฟต (0-3-0) เป็นปุ๋ยที่ผลิตได้ในประเทศ มีปริมาณฟอสเฟตทั้งหมดประมาณร้อยละ 25 มีปริมาณฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์ร้อยละ 3 วิธีใส่ ปุ๋ยรองก้นหลุม โดยขุดดินแยกเป็น 2 ส่วนคือ ดินชั้นบนและดินชั้นล่าง ใช้ดินบนกลบลงในหลุมก่อน ส่วนดินล่างใช้คลุกหิน ฟอสเฟต อัตรา 170 กรัมต่อหลุม แล้วกลบดินล่างที่คลุกปุ๋ยลงไปให้เต็มหลุมในเขตแห้งแล้งแนะนำให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองก้นหลุม เพิ่มในอัตรา 5 กิโลกรัมต่อต้น ซึ่งจะมีผลทำให้ต้นยางมีอัตราการรอดตายสูงและการเจริญเติบโตในช่วงแรกดีขึ้น
                   ปุ๋ยบำรุง เป็นปุ๋ยที่ใส่เพื่อเร่งให้ต้นยางเจริญเติบโตเร็ว สามารถเปิดกรีดได้เร็วขึ้นและให้ผลผลิตสูง ปุ๋ยบำรุงที่แนะนำ ใช้ในสวนยางก่อนเปิดกรีด จำนวน 2 สูตร คือ
                   สูตร 20-8-20 สำหรับดินทุกชนิดในเขตปลูกยางเดิม
                   สูตร 20-10-12 สำหรับดินทุกชนิดในเขตปลูกยางใหม่

              โดยสูตรปุ๋ยสำหรับดินปลูกยางในเขตปลูกยางเดิม มีอัตราปุ๋ยที่ใส่แตกต่างกันตามชนิดของเนื้อดิน ส่วนในเขต ปลูกยาง ใหม่ และเขตแห้งแล้งแนะนำอัตราปุ๋ยเหมือนกันในดินทุกชนิด และควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี
 
                    สูตรปุ๋ย เวลา และอัตราปุ๋ยเม็ดสูตรสำเร็จที่ใช้กับต้นยางก่อนเปิดกรีด
 
ปีที่
อายุต้นยาง 1/ (เดือน)
เขตปลูกยางเดิม
เขตปลูกยางใหม่
ปุ๋ยเคมี 20-8-20
(กรัม/ต้น)
ปุ๋ยเคมี 20-10-12 (กรัม/ต้น)
ปุ๋ยอินทรีย์
(กก./ต้น)
ดินร่วนเหนียว
ดินร่วนทราย
ดินทุกชนิด
ดินทุกชนิด
 
1
2
5
11
70
100
130
100
140
170
60
80
100
1
-
-
 
2
14
16
23
150
150
150
200
210
210
110
110
120
2
-
-
3
28
36
230
230
320
320
180
180
2
-
4
40
47
240
240
330
330
180
180
2
-
5
52
59
260
260
360
360
200
200
2
-
6
64
71
270
270
370
370
200
200
2
-

1/   เวลาใส่ปุ๋ยอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความชื้นในดิน
                    ในขณะที่ต้นยางยังเล็กควรใส่ปุ๋ยบริเวณรอบโคนต้นยางในรัศมีทรงพุ่มใบ หลังจากนั้นเมื่อต้นยางอายุ 2 ปีขึ้นไป ใส่เป็นแถบ 2 ข้าง ในบริเวณระหว่างแถวยางตามแนวทรงพุ่มของต้นยาง โดยวิธีคราดกลบให้ปุ๋ยอยู่ใต้ผิวดิน หรือขุดหลุมลึกประมาณ เซนติเมตร จากผิวดิน จำนวน 2 หลุมต่อต้น
 
การใส่ปุ๋ยยางพาราหลังเปิดกรีด
                  เมื่อต้นยางเปิดกรีดได้แล้ว ยังมีความจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยต่อไปทุกปี เพื่อให้ผลผลิตสูงสม่ำเสมอ ปุ๋ยยางพาราหลังเปิด กรีดที่แนะนำคือ ปุ๋ยสูตร 30-5-18 ใช้ได้กับดินทุกชนิด ทั้งในเขตปลูกยางเดิมและเขตปลูกยางใหม่ สำหรับดินที่ขาดธาต ุแมกนีเซียมควรใส่ปุ๋ยคีเซอไรท์ เพิ่มในอัตรา 80 กรัมต่อต้นต่อปี อย่างไรก็ตาม สวนยางที่ปลูกพืชคลุมดินระหว่างแถวยาง และใส ่ปุ๋ย บำรุงต้นยางและ พืชคลุมดินสม่ำเสมออาจ ไม่ต้องใสปุ๋ยบำรุงต้นยาง ในช่วง 2 ปีแรกที่เปิดกรีด หากในดินและใบยางมีปริมาณธาตุ อาหารเพียงพอ ทั้งนี้จากปุ๋ยที่ใส่ให้แก่ต้นยางในระยะยาง อ่อนยังมีผลตกค้างในดินเป็นเวลา 2 ปี
                การใส่ปุ๋ยให้แก่ต้นยางที่เปิดกรีดแล้ว แนะนำให้ใส่ปุ๋ยอัตรา1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ๆ ละ 500 กรัมต่อต้น ครั้งแรกใส่ในต้นฤดูฝนหลังจากยางผลัดใบ ขณะที่ใบเพสลาด คือ ประมาณปลายเดือนเมษายน - พฤษภาคม และครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ย ประมาณเดือนสิงหาคม -กันยายน โดยหว่านปุ๋ยในบริเวณห่างจากโคนต้นยางประมาณ 3 เมตร หรือบริเวณกึ่งกลางระหว่างแถวยาง คราดกลบให้ปุ๋ยอยู่ใต้ผิวดินที่ ระดับความลึกประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร
 
การผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง
                  ปุ๋ยผสม หมายถึง ปุ๋ยที่ได้จากการนำเอาปุ๋ยเชิงเดี่ยว หรือปุ๋ยเชิงประกอบที่เป็น แหล่งของธาตุ อาหารหลักของยางพารา มาผสมกันให้มีเนื้อธาตุอาหารตามสูตรที่ต้องการ ปุ๋ยที่นำมาใช้ในการผสมเรียกว่า แม่ปุ๋ย ชนิดของแม่ปุ๋ยที่ใช้ในการผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง ที่หาซื้อได้สะดวก และราคาถูกกว่าแม่ปุ๋ยชนิดอื่น ได้แก่
                             1.    ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต สูตร 18-46-0
                              2.   ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0
                              3.   ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-0-60
           ในการผสมปุ๋ยสูตรต่าง ๆ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ใช้ปริมาณแม่ปุ๋ยและสารตัวเติม แต่การผสมปุ๋ยใช้เอง ไม่แนะนำให้ใช้ สารตัวเติม เพราะเป็นการเพิ่มน้ำหนักโดยไม่จำเป็น ทำให้เพิ่มแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ย แสดงดังตาราง
 
 
                  ตารางแสดงปริมาณแม่ปุ๋ยและสารตัวเติมในการผสมปุ๋ยน้ำหนัก 100 กิโลกรัม
 
สูตรปุ๋ย
ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต 18-46-0
ยูเรีย
46-0-0
โพแทสเซียมคลอไรด์
0-0-60
สารตัวเติม 1/
ทราย    ดินร่วน
20-8-20
20-10-12
30-5-18
18
22
10
38
36
60
34
20
30
10
22
-
   หมายเหตุ     1/ ในการผสมปุ๋ยใช้เอง ไม่แนะนำให้ใช้สารตัวเติม
 
 
                สูตรปุ๋ย เวลา และอัตราปุ๋ยผสมใช้เอง สูตร 20-8-20 ที่ใช้กับต้นยางก่อนเปิดกรีด (เขตปลูกยางเดิม)
                     และสูตร 20-10-12 (เขตปลูกยางใหม่)
 
ปีที่
อายุต้นยาง
(เดือน)
เขตปลูกยางเดิม
เขตปลูกยางใหม่
ปุ๋ยผสมใช้เอง 20-8-20
(กรัม/ต้น)
ปุ๋ยผสมใช้เอง 20-10-12 (กรัม/ต้น)
ปุ๋ยอินทรีย์
(กก./ต้น)
ดินร่วนเหนียว
ดินร่วนทราย
ดินทุกชนิด
ดินทุกชนิด
1
2
5
11
60
90
120
90
130
150
50
70
80
1
-
-
2
14
16
23
140
140
140
180
190
190
90
90
100
2
-
-
3
28
36
210
210
290
290
140
140
2
-
4
40
47
220
220
300
300
140
140
2
-
5
52
59
240
240
330
330
160
160
2
-
6
64
71
250
250
340
340
160
160
2
-
 
4. การตัดแต่งกิ่ง
                  ยางพาราจำเป็นต้องตัดแต่งกิ่ง เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่บริเวณลำต้นให้เหมาะสมที่จะใช้กรีดยางได้ การตัดแต่งกิ่ง ที่ดีจะช่วยให้ต้นยางมีทรงพุ่มแข็งแรง ลดปัญหาความเสียหายที่เกิดจากลม ต้นยางพาราที่มีทรงพุ่มดีจะมีการเจริญเติบโตได้เร็ว ให้ผลผลิตสูงและต่อเนื่องในช่วงหลังเปิดกรีดได้ยาวนาน
                  ในช่วง 1-2 ปี หลังจากปลูกยาง จำเป็นต้องลิดกิ่งแขนงที่แตกออกจากลำต้นขณะที่กิ่งยังอ่อน โดยใช้กรรไกร ตัดแต่งกิ่งที่คม เพื่อป้องกันการฉีกขาดของเปลือกยาง และตัดให้ชิดลำต้น จนกระทั่งความสูงของลำต้นประมาณ 2 เมตร จึงหยุดการตัดแต่งกิ่ง.
 
 
 
 
ด้วยความปรารถนาดี
ศูนย์รวบรวมผลผลิตยางพารา จ.เลย
บริษัท มาลัยพืชผล จำกัด    สาขา จ.เลย
มือถือ :           083-5082944  , 080-2855810   , 087-2111219   , 081-8883697
 โทรศัพท์/โทรสาร   : 042-835141
  






Copyright © 2010 All Rights Reserved.
บริษัท มาลัยพืชผล จำกัด(br) 39/181-182 หมู่ที่ 9 ซอยพิพรพงษ์ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210(br) โทร. 02-5329173-5 แฟกซ์ 02-5329176(br) www.malaigreen.com(br)